ทาร์ตไข่ เมนูทานเล่น ทำง่ายสำหรับทุกเพศ ทุกวัย อีกทั้งในปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ ทาร์ตไข่สำเร็จรูป ออกมามากมาย ทำให้สามารถทำทานได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่หลายๆ คน ก็อาจจะยังประสบปัญหาในการ “อบทาร์ตไข่” ว่าจะต้องอบกี่นาทีหรือมีเทคนิคยังไงบ้าง วันนี้ ริช วิปปิ้งครีม มีเกร็ดน่ารู้มาฝากครับ
อบทาร์ตไข่ยังไงไม่ให้ก้นแฉะ?
- การคลายแป้งทาร์ต: ต้องนำมาคลายเย็น 15-20 นาที ไม่ให้แป้งทาร์ตแข็งจนเกินไป และเป็นต้นเหตุของก้นแฉะ (แป้งเป็นไต) แป้งควรมีอุณหภูมิประมาณ 10-25 องศาเซลเซียสก่อนเข้าอบ วิธีเช็คว่าแป้งทาร์ตพร้อมอบแล้วหรือยังคือ ใช้มือกดลงไปที่แป้งทาร์ต หากแป้งบุ๋มลงไป แสดงว่าใช้ได้แล้ว
- การใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม: ควรอบแป้งทาร์ตที่ไฟแรง (กรณีแป้งพัฟ) ที่อุณหภูมิ 230 องศาเซลเซียสทั้งไฟบนและไฟล่าง
- การใช้เตาอบ: สำหรับเตาอบพื้นหิน ให้เอาตะแกรงออกก่อนวางถาดอบ ส่วนเตาพัดลม เลื่อนให้ตะแกรงวางอยู่ชั้นล่างสุดก่อนวางถาดอบ (หากเปิดพัดลมในระหว่างการอบด้วยจะทำให้เห็นแป้งพัฟชัดเจนยิ่งขึ้น)
เพิ่มเกร็ดน่ารู้เล็กน้อย น้ำทาร์ตที่เทอบ ต้องมีอุณหภูมิที่เย็น เพื่อที่ว่า ในระหว่างการอบนั้น น้ำทาร์ตจะไม่แข็ง แตกและสุกมากจนเกินไป แต่จะนัวๆ ละลายในปากพอดีๆ
มาดูวิธีการทำทาร์ตไข่ง่ายๆ 4 ขั้นตอนกัน
ทาร์ตไข่สไตล์ฮ่องกง
คลายเย็นที่อุณหภูมิ 2-7◦C > เทครีมทาร์ต > อบ 23 นาที ไฟบนและล่าง 230◦C ในแป้งพัฟ หรืออบ 18 นาที ไฟบนและล่าง 190◦C ในแป้งคุกกี้ > พักให้เย็นพร้อมทาน
ทาร์ตไข่สไตล์มาเก๊า
คลายเย็นที่อุณหภูมิ 2-7◦C > เทครีมทาร์ต > อบ 20-23 นาที ไฟบนและล่าง 230◦C ในแป้งพัฟ หรืออบ 18 นาที ไฟบนและล่าง 190◦C ในแป้งคุกกี้ > พักให้เย็นพร้อมทาน
ความแตกต่าง : ทาร์ตไข่ทั้ง 2 สไตล์มีขั้นตอนที่เหมือนกัน แตกต่างกันที่แป้งทาร์ตประเภทที่ต่างกัน จะใช้ระยะเวลาที่อบไม่เท่ากัน
“เท แล้ว อบ” คอนเซปง่ายๆ ที่อาศัยเทคนิคและรายละเอียดเล็กน้อยในการทำ แฟนเพจ ริชวิปปิ้งครีม สามารถลองสังเกตวิธีการที่เคยทำและนำเทคนิคไปปรับใช้กันนะ
ผลิตภัณฑ์ ริชส์ วิปปิ้งครีม มีจำหน่ายที่ร้านอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ
หรือช่องทางออนไลน์ >> คลิกสั่งซื้อ
และ SHOPEE >> คลิกสั่งซื้อ